เทคนิคการอ่านหนังสือที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

เทคนิคการอ่านหนังสือที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
เทคนิคการอ่านหนังสือที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

เคล็ดลับในการอ่านหนังสือ ที่เราจะนำมาบอกต่อคุณผู้อ่านกันในวันนี้ เป็นเคล็ดลับส่งตรงมาจากนักเรียนของประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อ่านแล้วจำช้า จำไม่ค่อยได้ ต้องลองนำสิ่งดีๆจากวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู

มีสมาธิจดจ่อ

สำหรับอาการนี้ จัดเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่ว่าใครหลายๆคนในยุคนี้เป็นกันมาก นั่นก็คือ ชอบทำอะไรทีละอย่าง มีอาการหงุดหงิด โหยหา ตอนที่โทรศัพท์อยู่ห่างจากตัว แม้กระทั่งตอนจะต้องใช้สมาธิมากๆ ในเวลาอ่านหนังสือ ซึ่งนิสัยนี้คุณต้องแก้โดยด่วน ให้พยายามดัดนิสัยของตัวเองทำอะไรแค่ทีละอย่างเท่านั้นพอ ถ้าทำได้รับรองว่าชีวิตของคุณจะดีขึ้นเยอะ !

อ่านอย่างช้าๆ หากแต่ต้องหนักแน่น

ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ มีความเชื่อว่าคนเราจะมีสมาธิจดจ่อได้มากสุด 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นในแต่ละคลาสเกือบทั้งหมดในมหาวิทยาลัยจะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่น จึงมีอารมณ์ใจจดใจจ่อกับการอ่านหนังสือให้เต็มที่ แบบไม่ให้อะไรมารบกวน หากแต่จะใช้เวลาไม่นานในแต่ละครั้ง แต่สำหรับมือใหม่แนะนำให้ลองครั้งละ 15 นาทีพอ ถ้าทำได้ก็ค่อยๆเพิ่มเวลาทำต่อไปเรื่อยๆจนค่อยๆครบ 1 ชั่วโมง

อ่านสารบัญก่อนเป็นอันดับแรก

ให้คุณเริ่มจากการอ่านสารบัญก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากคุณจะได้รู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง โดยการอ่านสารบัญจะทำให้คุณเข้าใจถึงรายละเอียดคร่าวๆ อีกทั้งยังช่วยทำให้คุณจับใจความได้อีกด้วยว่า เนื้อหาสำคัญมีอะไรบ้าง อีกทั้งยังช่วยทำให้คุณมีความคุ้นเคยกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

อ่านล่วงหน้าพร้อมทบทวนย้อนหลัง

นี่คือสิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นทำกันเป็นประจำ คือ การอ่านเตรียมมาก่อนเข้าเรียน และ การทบทวนสิ่งที่เรียนไปแล้วด้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งคนไทยมักจะอ่านหนังสือทบทวนหลังจากเรียนมาอยู่แล้ว หากแต่การอ่านก่อนเข้าเรียนนี่สิ เป็นสิ่งไม่ค่อยทำกันสักเท่าไหร่ หรือไม่ทำเลย สำหรับข้อดีในการอ่านรูปแบบนี้นั้น จะทำให้คุณมีความเข้าใจในเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องกระตุ้นให้คุณเกิดความสงสัยในสิ่งที่อ่านขึ้นมา ทำให้คุณสามารถตั้งถามคำถามกับอาจารย์ในห้องเรียนได้ อีกทั้งยังเป็นการประหยัดเวลาในการทำความเข้าใจไปอีกขั้นหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นวิธีเรียนที่ไม่ยาก แถมได้ประโยชน์อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

และนี่ก็คือ 4 ข้อในการอ่านหนังสือที่คุณทำตามได้ง่าย และเราเองก็อยากให้คุณได้ลองนำไปปรับใช้กับดูนะคะ รับรองว่าการอ่านหนังสือจะดีกว่าที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน